เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเสริมหน้าอก
- สอบถามแพทย์ให้เข้าใจเกี่ยวกับการเสริมหน้าอก
- แจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบ เช่น โรคประจำตัว, ยาที่รับประทานเป็นประจำ
- ตรวจสุขภาพร่างกายทั่วไป และตรวจเลือดก่อนผ่าตัด
- งดการใช้ยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ประมาณ 2 สัปดาห์ และงดวิตามิน อาหารเสริมที่มีผลต่อการบวมช้ำของแผลได้ เช่น วิตามิน A, วิตามิน E, น้ำมันตับปลา ประมาณ 1สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด
- ก่อนผ่าตัดต้องงดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
นอกจากการเสริมหน้าอกด้วยวิธีผ่าตัดแล้ว ยังมีการเสริมสร้างเต้านมใหม่ โดยฉีดเสริมด้วยไขมันของคนไข้เอง เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นขา เป็นต้น วิธีนี้ถือเป็นเทคนิคที่ทำง่ายและได้ผลดี สามารถปรับแต่งเต้านมให้ได้รูปสวยเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะคนที่มีขนาดเต้านมเล็กถึงปานกลาง อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวหนังบริเวณเต้านมให้ดีขึ้น
จะเห็นได้ว่าการเสริมหน้าอกในยุคปัจจุบัน มีเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย ผลแทรกซ้อนจากการเสริมหน้าอกก็ลดลงเนื่องจากแพทย์มีประสบการณ์และความชำนาญมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อน เช่น ลักษณะซิลิโคนเมื่อก่อนจะใช้แบบผิวเรียบ ข้อเสียก็คือ เกิดเป็นพังผืดรัดถุงซิลิโคนทำให้เต้านมผิดรูป และแข็ง ในปัจจุบันพัฒนาเป็นซิลิโคนผิวทราย เพื่อลดการเกิดพังผืดหดรัด เป็นต้น อีกทั้งยังมีเทคนิคใหม่ๆ ที่ทำให้คนไข้เจ็บน้อย พักฟื้นไม่นาน
เมื่อมีหน้าอกที่สวยเป็นธรรมชาติแล้ว บางคนยังติดปัญหาหัวนมหรือปานนมไม่สวยงาม ทำให้ขาดความมั่นใจ แนะนำให้ผ่าตัดตกแต่งหัวนมหรือ ตกแต่งปานนม ไปพร้อมกับการเสริมเต้านมเลยก็ดี ต่อไปเวลาส่องกระจกจะได้เห็นเต้านมสวยๆ โดยไม่มีอะไรให้สะดุดค่ะ
Reviews
There are no reviews yet.